พูดคุยกันมาเผลอแป๊บเดียวลูกน้อยเติบโตเข้าสู่เดือนที่ 4 แล้วนะคะ….เดือนนี้เด็กน้อยไม่ใช่ทารกตัวจิ๋วอย่างเมื่อตอนแรกเกิดอีกแล้ว แถมยังสามารถอยู่ในท่าคว่ำ และพลิกคว่ำ พลิกหงาย ได้ดีอีกด้วย
โดยในเดือนที่ 4 นี้พัฒนาการกล้ามเนื้อของลูกดีขึ้นมาก ลูกสามารถควบคุมกล้ามเนื้อร่างกายได้ดีขี้นมาก ลูกจึงสามารถแสดงปฏิกิริยาอาการต่าง ๆ ตามที่ลูกตั้งใจได้ ตอบโต้ได้มากกว่าในเดือนที่ 3 ค่ะ ลูกน้อยวัยนี้จำชื่อตัวเองได้แล้วนะคะ พ่อแม่อย่าลืมเรียกชื่อลูกบ่อย ๆ พอพ่อแม่เรียกชื่อลูกน้อยจะหันหาตามเสียงเรียกเลยล่ะค่ะ แถมลูกยังมีปฏิกิริยาต่อโทนเสียงของคุณพ่อคุณแม่ด้วยนะคะ ถ้าน้ำเสียงของพ่อแม่ฟังดูอ่อนโยนนุ่มนวล ลูกก็จะมีความสุข หัวเราะ ยิ้มให้ แต่หากน้ำเสียงของพ่อแม่ห้วน แหลมสูง อาจทำให้เด็กน้อยร้องไห้จ้าได้เลยค่ะ….คุณพ่อคุณแม่พูดคุยด้วยน้ำเสียงที่นุ่มนวลนะคะ ลูกน้อยก็จะซึมซับความนุ่มนวลจากพ่อแม่ไว้ด้วยค่ะ
วัย 4 เดือนนี้ลูกน้อยสามารถจดจำได้ดีขึ้น จะตื้นตาตื่นใจกับของเล่นใหม่ ๆ ที่คุณพ่อคุณแม่ซื้อให้ สามารถเปรียบเทียบของเล่นใหม่กับของเล่นชิ้นเก่าของตนได้ด้วยค่ะ เด็กบางคนจะเริ่มติดของเล่นบางชิ้น หรือบ้างก็ติดหมอน ติดผ้าห่ม….การติดของของเด็กวันนี้พ่อแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ จะไม่เหมือนการติดของของเด็กโตค่ะ ลูกน้อยวัยนี้ติดของนุ่ม ๆ ที่ช่วยให้แก่ผ่อนคลายความเครียดและรู้สึกสบายขึ้น เป็นการปลอมประโลมจิตใจของแกเท่านั้น ซึ่งจะไม่เหมือนเด็กโตที่การติดของคือการรู้สึกกลัวที่จะพรากจากของรักค่ะ
มาดูกันนะคะว่าลูกน้อยวัย 4 เดือนของคุณพ่อคุณแม่มีการพัฒนาการด้านต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง
พัฒนาการด้านร่างกาย
ในเดือนนี้ลูกน้อยมีพัฒนาการของกล้ามเนื้อดีขึ้นมาก คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตเห็นว่าลูกตั้งศรีษะได้ตรงแล้ว และหมุนคอหันไปทิศต่าง ๆ ได้ เวลาวางลูกให้นอนคว่ำลูกจะสามารถยกศรีษะได้ 90 องศา บางครั้งก็ทำท่าเครื่องบิน…น่ารักจังใช่มั้ยคะเวลานอนหงายก็มักจะถีบจักรยานอยู่เสมอ ปล่อยให้ลูกถีบขาไปเลย เพราะเป็นวิธีออกกำลังขาสำหรับการคลานและการยืนของลูกต่อไปค่ะ
อีกอย่างหนึ่งคือใน เดือนนี้กล้ามเนื้อมือของลูกแข็งแรงขึ้นด้วย การคลายมือหรือกำมือของลูกใช้การได้ดีขึ้น และลูกมักจะฝึกทำอยู่เสมอ ๆ บางทีก็คว้า บางทีก็กำไว้แน่เลย คุณพ่อคุณแม่ต้องระวังของเล่นที่บีบแล้วอาจเปราะแตกง่าย เพราะอาจบาดมือเจ้าตัวน้อย ของเล่นก็อย่าให้มีเชือกยาวเกินไปเดี่ยวจะพันข้อมือลูกค่ะ…..ไม่ใช่พ่อแม่กล้วจนไม่ให้ลูกเล่นอะไร หรือดูอย่างเดียวนะคะ….เพราะการเล่นเป็นการกระตุ้นพัฒนาการของลูกน้อย เป็นการเพิ่มพลังการเรียนรู้ให้ลูกน้อย
ในตอนเดือนที่ 3 นั้นลูกน้อยจะนอนมากเพราะกล้ามเนื้อหลังยังไม่แข็งแรง ในเดือนที่ 4 นี้เริ่มพัฒนากล้ามเนื้อลำตัวเพื่อเตรียมตัวนั่งในเดือนต่อไปแล้วนะคะ โดยการพลิกตัวคว่ำ บางคนนอนคว่ำยกแขนขาเป็นท่าเครื่องบินรอน บางคนก็ทำท่าเคลื่อนไหวแขวนขาเหมือนท่าวายน้ำเลยค่ะ เผลอ ๆ ต่อไปจะเห็นเจ้าตัวน้อยพัฒนามาเป็นการคลานได้เลย…คุณพ่อคุณแม่ต้องเร่งฝึกความว่องไวให้มากขึ้นแล้วนะคะ ลูกน้อยไม่ยอมนอนอย่างเดียวแล้วค่ะ แกจะพยายามฝึกฝนความสามารถของตนเองอยู่บ่อย ๆ หากพ่อแม่ไม่ระวัง เผลอ ลูกน้อยอาจพลัดตกได้
พัฒนาการด้านสติปัญญาและอารมณ์
เด็กในเดือนที่ 4 นี้มองเห็นไกลออกไปนอกหน้าต่างแล้ว สมองและสายตาทำงานสัมพันธ์กันแล้ว และยังสามารถมองซ้าย มองขวา มองขึ้นมองลง มองตามวัตถุเคลื่อนที่ได้อีกต่างหากค่ะ ในวัยนี้ลูกมองเห็นได้ใกล้เคียงกับผู้ใหญ่แล้ว
นะคะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสี หรือการปรับระยะชัด…. ทำให้ลูกแยกความแตกต่างของคนและสิ่งของ ตัวแกและสิ่งแวดล้อม
ได้แล้ว ลูกน้อยจะสนใจเรื่องระยะทาง และความลึกตื้น ลูกมักสนใจมองและยิ้มให้ตนเองในกระจก
ลูกเริ่มพัฒนาด้านความจำ ซึ่งลูกเริ่มทำการเชื่อมโยงกับความเข้าใจและการเรียนรู้ของลูกน้อย คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยเสริมพัฒนาการลูกได้ค่ะ เช่น ซื้อของเล่นที่มีสีสันสดใส มีเสียง หรือมีรูปทรงสัมผัสที่แตกต่างออกไป จะเป็นการสร้างความจำที่หลากหลายให้ลูกน้อยได้ การทำซ้ำบ่อย ๆ ก็ช่วยให้ลูกน้อยสามารถจดจำได้ดี…ไม่ลืมด้วยนะคะว่า ลูกน้อยจดจำสิ่งที่พ่อแม่บอกได้ดีขึ้น พ่อแม่เรียกชื่อลูกบ่อย ๆ ร้องเพลงให้ฟัง พูดคุย หรือชี้ชวนให้ลูกดูนั่นดูนี้ด้วยนะคะ
พัฒนาการด้านการช่วยเหลือตัวเองและสังคม
ลูกน้อยของคุณพ่อคุณแม่ในวัยนี้เริ่มแยกออกระหว่างใบหน้าของคนในครอบครัวที่คุ้นเคยกับคนแปลกหน้าแล้วค่ะ จะเห็นว่าลูกน้อยจะร้องไห้จ้าทันทีถ้ามีคนแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคยหรือที่จำหน้าไม่ได้มาอุ้ม พอลูกเข้าอายุ 4 เดือน ลูกจะเริ่มมีความเป็นตัวเอง เมื่อลูกค้นพบว่าเสียงเรียกของตนเองเรียกความสนใจของพ่อแม่ได้ และนี่คือการเริ่มต้นเรียนรู้เรื่องความมีตัวตนของตนเอง และแนวทางปฏิบัติต่อการสร้างความสัมพันธ์กับคนอื่นของลูกน้อยค่ะ
ในวัยนี้จะชอบให้อุ้ม สนใจของเล่น ชอบเล่น เมื่อพ่อแม่ทำท่าจะมาอุ้มเขาขึ้น ลูกจะแสดงท่าทางดีใจ และอยากเล่นกับผู้คนมากขึ้น รอยยิ้มอย่างดีใจจะเปิดกว้าง สำหรับคนที่ลูกชอบและคุ้นเคย ลูกจะชอบที่จะทำเสียงเลียนเสียงคุณ ถ้ามีคนคุยด้วยกับเขา ลูกน้อยจะส่งเสียงโต้ตอบมากขึ้น และเล่นสนุกอยู่ได้นาน ช่วงนี้ลูกอาจมีน้ำลายไหลมาก อาจเป็นจากการที่มีการสร้างน้ำลายมากขึ้น แต่ยังไม่รู้จักการกลืนน้ำลาย
พ่อแม่คือคนสำคัญที่สุดต่อการพัฒนาศักยภาพสมองของลูก ปฏิสัมพันธ์ที่พ่อแม่ปฏิบัติต่อลูกอย่างอบอุ่นและมั่นคงจะส่งผลให้สมองของลูกเจริญเติบโตและมีพัฒนาการ รวมทั้งช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับคนอื่น ๆ ต่อไปด้วยนะคะ และเมื่อลูกน้อยทำได้อย่าลืมแสดงอาการสนใจ ชื่นชมลูกน้อยด้วย จะทำให้ลูกรู้สึกดี ช่วยกระตุ้น
ความพยายามของลูกให้มีมากขึ้นด้วย
แล้วอย่าลืมมาพบกับพัฒนาการลูกน้อยในเดือนที่5 ตอนต่อไปด้วยนะคะ^^
