พัฒนาการของลูกน้อยและคุณแม่ตั้งครรภ์ เดือนที่ 5

พัฒนาการของลูกน้อยและคุณแม่ตั้งครรภ์ เดือนที่ 5

พัฒนาการของลูกน้อยและคุณแม่ตั้งครรภ์ เดือนที่ 5

เมื่อเข้าสู่การตั้งครรภ์ในเดือนที่ห้านี้  คุณแม่ส่วนใหญ่จะสามารถปรับตัวได้เป็นอย่างดีเรียบร้อยแล้ว  ดีไม่ดีกลับมีความสุขเพิ่มมากขึ้นจากการตั้งครรภ์ซะอีก  ในช่วงนี้คุณแม่จะดูผิวพรรณเปล่งปลั่งเป็นพิเศษ  หรือเรียกได้ว่า “สวยขึ้น” ว่างั้นเถอะค่ะ ทั้งนี้เป็นผลมาจากระดับฮอร์โมนที่สูงขึ้น แถมยังจะเป็นเดือนแรกที่คุณแม่จะได้รับรู้ถึงความรู้สึกว่า  “ลูกอยู่ในท้อง”  เพราะจะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของทารกในครรภ์  เป็นการเคลื่อนไหวที่แผ่วเบาเหมือนการเคลื่อนไหวของปุยเมฆในท้อง

 

พัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ เดือนที่ 5

ในเดือนที่แล้วเราเริ่มเห็นขนอ่อนของทารกขึ้นมาตามตัวรวมถึงขนคิ้วและขนตากันแล้วใช่ไหมคะ  ในเดือนนี้ลูกจะเริ่มมีผมแล้วค่ะ  จะผมตรงผมหยิก  ผมบาง  ผมหนา  ผมเยอะ  รึว่าผมน้อยอีกไม่นานก็จะได้รู้กัน  ถ้าคุณหมอส่องอัลตราซาวน์ดูก็อาจจะได้เจอช่วงที่หนูน้อยกำลังดิ้นดุกดิกอยู่ในพุงของคุณแม่อย่างสบายอารมณ์  หรือบางทีอาจจะเป็นภาพเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟันก็เป็นได้เพราะลุกจะมีฟันขึ้นที่ใต้เหงือกแล้วค่ะ  แถมยังจะมีไขมันห่อหุ้มอยู่รอบตัวของลูกด้วยเพื่อปกป้องลูกจากสิ่งรอบตัวเนื่องจากเขามีขนาดตัวที่ใหญ่ขึ้น  ถ้าขยับมาดูส่วนแขนขาจะเห็นว่ามีสัดส่วนที่ดูสมดุลได้สัดส่วนมากยิ่งขึ้น  รวมถึงลูกสามารถกำหมัดได้อีกด้วย  และในเดือนที่ห้านี้ภูมิคุ้มกันต่างจากคุณแม่จะถูกส่งผ่านไปยังคุณลูกเพื่อป้องกันความเจ็บป่วยที่อาจจะเกิดขึ้นได้หลังคลอดในช่วงแรกๆ  ทารกจะมีการเคลื่อนไหวที่แตกต่างกัน  ดังนั้นถ้าหากลูกดิ้นมาก  ถีบมาก  หรือบางคนอาจเพียงเคลื่อนไหวตัวแค่เบาๆ  ก็ถือเป็นเรื่องปกติของเด็กที่มีพื้นฐานมาจากครอบครัวและสิ่งแวดล้อมที่ต่างกัน  เด็กบางคนอาจตอบรับกับเสียงภายนอกด้วยการดิ้นอย่างรุนแรง  ในขณะที่เด็กบางคนเมื่อได้ยินเสียงดังภายนอกกลับเฉยๆนอนหลับสบายไปก็มี   แต่ในเดือนนี้คุณแม่ยังไม่สามารถรู้สึกถึงการดิ้นของลุกได้แรงมากนักเนื่องจากเขายังมีขนาดที่เล็กอยู่  แต่การดิ้นจะรุนแรงขึ้นในช่วงของเดือนถัดๆไปค่ะ โดยในขณะนี้ทารกจะมีความยาวประมาณ 25 ซม.  และมีน้ำหนักราว 340 กรัม

 

พัฒนาการของคุณแม่ตั้งครรภ์ เดือนที่ 5

ในเดือนที่ห้านี้ถือเป็นครึ่งทางของการตั้งครรภ์แล้วนะคะ  คุณแม่ส่วนใหญ่สามารถปรับตัวได้ดีกับการเป็น “คุณแม่คนใหม่”  ในขณะที่อีกหลายท่านอาจจะต้องใช้เวลาทำใจอีกซักนิด  พร้อมทั้งเจอความรู้สึกตื่นเต้นอีกสักหน่อยในการที่จะเป็นแม่คน  ในด้านพัฒนาการทางร่างกายของคุณแม่นั้น  ในเดือนนี้เต้านมจะขยายใหญ่ขึ้นอีกอย่างเห็นได้ชัด  รวมถึงหัวนมก็จะมีสีที่เข้มขึ้นเช่นกัน  และสีผิวบริเวณที่เคยเข้มขึ้นในเดือนก่อนก็จะเข้มขึ้นตามไปด้วย  แต่ทั้งหมดจะจางลงเมื่อคลอดบุตรค่ะ  ขอให้คุณแม่ทุกท่านสบายใจได้   ในส่วนของครรภ์หรือยอดมดลูกนั้นจะขยับขึ้นมาถึงช่วงระดับสะดือจึงเห็นครรภ์ได้ชัดเจนขึ้นอีก  ผิวพรรณในช่วงนี้คุณแม่ส่วนใหญ่มักจะรู้สึกได้ว่าดูเนียนละเอียดขึ้นรวมทั้งผมก็เงางามสลวย  แต่ในบางคนอาจแห้งทั้งผิวและผมมากยิ่งขึ้นแนะนำให้ทาด้วยน้ำมันหรือครีม  และใช้ครีมนวดผม  แต่ในขณะที่บางคนกลับมีผิวและผมที่มันเยิ้มมากขึ้นก็ให้ลดการใช้เครื่องประทินผิวลงค่ะ   สีผิวในช่วงนี้จะเข้มขึ้น  แม้แต่ปาน  ไผ  กระ  ฝ้าก็เช่นกัน  แต่ทั้งหมดจะจางลงเมื่อคลอดน้องแล้วค่ะ  จึงไม่แนะนำให้ใช้ครีมเพื่อรักษากระฝ้าในช่วงนี้  แต่แนะนำให้ใช้ครีมเพื่อป้องกันแสงแดดจะดีกว่า  น้ำหนักของคุณแม่ในช่วงนี้ควรจะขึ้นที่ครึ่งกิโลกรัมต่อสัปดาห์  และจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในเดือนถัดไป

 

การดูแลคุณแม่ในการตั้งครรภ์เดือนที่ 5

ในเดือนนี้คุณแม่ควรดูแลตนเองให้ดีเช่นเดือนแรกๆดังที่กล่าวมาก่อนหน้านี้แล้ว  นอกจากนี้ขอเน้นย้ำนะคะว่าควรรับประทานอาหารให้เพียงพอ  อย่างหวังพึ่งเพียงแต่การกินวิตามินแร่ธาตุเสริมตามที่คุณหมอจ่ายมาให้แต่เพียงอย่างเดียว  จงจำไว้ค่ะว่าสุขภาพที่ดีของคุณแม่ก็คือสุขภาพที่ดีของลูก  ถ้าหากคุณแม่ไม่ดูแลตัวเองให้ดีย่อมส่งผลให้ทารกในครรภ์มีร่างกายที่ไม่แข็งแรงสมบูรณ์ได้นะคะ  และจะกลายเป็นเด็กขี้โรคได้ในอนาคตค่ะ  ดังนั้นอย่าลืมรับประทานอาหารให้ครบห้าหมู่ในปริมาณที่เหมาะสม  และเป็นประจำ  ดื่มนมให้ได้วันละสองแก้ว  ดื่มน้ำให้ได้อีกวันละ 8-10 แก้ว  รับประทานผักผลไม้ที่มีกากใยและหลากหลาย  รวมถึงออกกำลังกายเบาๆอย่างเหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์  และอย่าลืมพบแพทย์ตามนัดเป็นประจำอย่างได้ขาดค่ะ

 

ข้อควรระวังของคุณแม่ในการตั้งครรภ์เดือนที่ 5

ข้อควรระวังที่สุดของคุณแม่ในเดือนที่ห้าก็คือ  เนื่องจากในเดือนนี้คุณแม่ทั้งหลายจะเริ่มรู้สึกตัวว่าอีกไม่นานก็จะได้เป็นแม่คนอย่างสมบูรณ์แล้ว  จึงมักที่จะเริ่มเตรียมสิ่งของ  และเตรียมการต้อนรับเจ้าตัวน้อยกันอย่างเต็มที่  ซึ่งอาจส่งผลให้คุณแม่เกิดอาการอ่อนเพลีย  เนื่องจากโหมทำงานและจัดแจงสิ่งของต่างๆ  ดังนั้นนอกจากคุณแม่ควรที่จะขอแรงให้คุณพ่อและคนอื่นรอบข้างช่วยจัดแจงแล้ว  ตัวคุณแม่เองก็อย่าหักโหมให้มากและอย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอด้วย  ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และลูกน้อยค่ะ